ความเชื่อที่ว่า คนรวยเป็นคนโลภเห็นแก่ตัว คนจนมีน้ำใจไม่เอาเปรียบ มาจากไหน ทำไมชีวิตจริงไม่เห็นเป็นเช่นนั้นเลย

* กระทู้นี้สามารถใช้งานได้เฉพาะผู้ที่มี Link นี้เท่านั้นค่ะ
ผมเป็นคนชนชั้นกลางที่ค่อนข้างไปทางมี
ผมมีเพื่อน ตั้งแต่รวยยังจน
ผมเคยมีแฟนที่เป็นคนรากหญ้า และ เคยมีแฟนที่ค่อนข้างมีฐานะ
ผมเคยเอามาเปรียบเทียบกันดู คำว่า
"คนรวยเป็นคนโลภเห็นแก่ตัว คนจนมีน้ำใจไม่เอาเปรียบใคร"
มาจากไหน เพราะที่ผมเคยเจอมาทั้งชีวิต
คนที่เอาเปรียบ หรือ โกงเรา มาจากคนที่ฐานะจนทั้งนั้นเลย

-เคยโดนเพื่อนที่เรียนมาด้วยกันโกงเงิน เค้ายอมหักความเป็นเพื่อน
ไม่ต้องคบกันต่อก็ได้ เพื่อที่จะไม่ต้องคืนเงิน5พัน 5พันยอมแลกกับมิตรภาพ

-เคยมีแฟนที่แม่เค้าขายผัดไทยรถเข็นในถนนข้าวสาร ชอบเอาเปรียบ ชอบขอเงิน
แม่เล่นการพนัน เวลาโมโหแล้วชอบด่าคำหยาบ
ไปไหนเราต้องควักทุกบาททุกสตางค์ ไม่ออกแม้กระทั่งค่ารถเมล์ 5บาท(สมัยนั้น5บาท)

-คนที่เอาเปรียบที่เคยเจอ ไม่ว่าช่างปูกระเบื้องห้องน้ำ(งานเล็กๆ) ยังทิ้งงาน 
เจอหลายทีที่ งานไม่เป็นงาน เอาเงินก่อน แล้วยึกยัก คิดเอาเปรียบ

-หลายครั้งและหลายคนที่เจอ จะเอาเปรียบแบบเรื่องเล็กๆน้อยๆ เงินเล็กๆน้อยๆก็เอา

ส่วนคนที่มีฐานะ

-ที่เจอมาเค้าไม่มาอะไรเล็กๆน้อยๆกับเรื่องเงิน และที่เคยเจอคือส่วนมากค่อนข้างมีน้ำใจ ไม่เอาเปรียบ ไม่หยาบคาย

-เคยมีแฟนที่เป็นลูกคุณหนู ข้อเสียมีอย่างเดียว คือ ขับรถไม่เป็น แต่คบมาไม่เคยเอาเปรียบ ไปเที่ยวหรือกินอะไรก็หารครึ่ง
เค้าอยากได้อะไรเค้าซื้อเอง ไม่เคยขอเราแม้แต่ครั้งเดียว สุภาพ พูดเพราะ 

-เพื่อนสนิทก็เหมือนกัน คบกันมา20ปีแล้ว พ่อเป็นรองอธิบดี แม่ทำงานศาล บ้านมีตัง มีอพาร์ทเม้นท์ โดนสปอยตั้งแต่เด็ก
แต่เป็นคนไม่เคยเอาเปรียบเพื่อนเลย

ดังนั้นผมจึงสงสัยว่า
ถึงมีคำพูดที่ว่า
ทำไมคนรวยเป็นคนโลภเห็นแก่ตัว คนจนมีน้ำใจไม่เอาเปรียบใคร
มันมาจากไหน ซึ่งมันไม่เป็นความจริงเลย
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่